ก) สักกายทิฏฐิ
ความเห็นว่าเป็นตัวตน ความเห็นว่าที่ยังติดแน่นในสมมติว่าเป็นตัวตน เราเขา
เป็นนั่นเป็นนี่
มองไม่เห็นสภาพความจริงที่สัตว์บุคคลเป็นเพียงองค์ประกอบต่าง ๆ
มาประชุมกันเข้าทำให้มีความเห็นแก่ตัวในขั้นหยาบ
และความรู้สึกกระทบกระทั่งบีบคั้นเป็นทุกข์ได้อย่างรุนแรง
ข) วิจิกิจฉา
ความลังเล สงสัย เคลือบแคลงต่าง ๆ เช่น
สงสัยในพระศาสดา สงสัยในพระธรรม สงสัยในพระสงฆ์
ในสิกขา
ในเรื่องที่มาที่ไปของชีวิต
ในปฏิจจสมุปบาท เป็นต้น
ทำให้ไม่มั่นใจไม่เข้มแข็งแกล้วกล้าที่จะดำเนินชีวิตตามหลักธรรม ด้วยความมีเหตุผล และในการที่จะเดินหน้าแน่วดิ่งไปในอริยมรรคา
ค) สีลัพพตปรามาส ความถือมั่นศีลพรต
คือ ความยึดถือผิดพลาดไปว่า
จะบริสุทธิ์
หลุกพ้นได้เพียงด้วยศีลและพรต
ได้แก่ การถือศีล ระเบียบ
แบบแผน บทบัญญัติ และข้อปฏิบัติต่าง ๆ โดยสักว่าทำตาม ๆ
กันไปอย่างงมงาย
เห็นเป็นขลังหรือศักดิ์สิทธิ์
ติดอยู่แค่รูปแบบหรือพิธีรีตอง
ถือด้วยตัณหาและทิฏฐิ คือปฏิบัติเพราะอยากได้ผลประโยชน์อย่าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น